กยศ. หรือ กองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา โดยมีการให้การกู้ยืมเงินแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยหลังจบการศึกษาผู้ทำการกู้ยืมจะต้องคืนเงินให้กับกองทุนด้วย
การกู้ยืมเงิน กยศ. จะแบ่งประเภทของผู้กู้ยืมออกเป็นสามประเภท ได้แก่ ผู้กู้ยืมรายใหม่ ผู้กู้ยืมรายเก่าเปลี่ยนระดับการศึกษาหรือเปลี่ยนสถานศึกษา และผู้กู้ยืมรายเก่าเลื่อนชั้นปี
ในส่วนของขั้นตอนการกู้ยืมเงิน กยศ. เริ่มแรกเราก็ต้องดำเนินการลงทะเบียนเพื่อขอรหัสผ่านในการใช้งานระบบของ กยศ. ก่อน จากนั้นเราก็จะต้องยื่นใบคำร้องขอกู้ยืมกับ กยศ. ภายในเวลาที่กองทุนกำหนด หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาในการสัมภาษณ์เราและตามหาผู้ที่มีคุณสมบัติในการกู้ยืมเงินและสถานศึกษาก็จะทำการบันทึกกรอบวงเงินในการกู้ยืมเงินในแต่ละปีลงในระบบ e-Studentloan แล้วค่อยประกาศรายชื่อของผู้มีสิทธิ์ในการกู้ยืมเงิน
หลังจากที่ชื่อของเราถูกประกาศออกมาแล้วเราก็จะต้องไปทำสัญญาการกู้ยืมเงินกับ กยศ. ซึ่งในขั้นตอนนี้เราที่เป็นผู้กู้ยืมเงินจะต้องบันทึกและพิมพ์สัญญาเงินกู้ลงในระบบ e-Studentloan แล้วจึงค่อยส่งสัญญาประกอบที่ได้ลงในระบบให้กับสถานศึกษาได้ตรวจสอบ เมื่อสถานศึกษาตรวจสอบเสร็จสถานศึกษาจะส่งข้อมูลลงระบบพร้อมกับหนังสือสัญญา
และเมื่อจบในส่วนของการทำสัญญาเราก็ต้องมาบันทึกข้อมูลว่าเราจะนำเงินที่เขาให้มาไปใช้ทำอะไรบ้าง เช่น จ่ายค่าเทอมเท่าไหร่ จ่ายค่าอุปกรณ์การเรียนไปเท่าไหร่ เป็นต้น โดยที่ค่าใช้จ่ายจะต้องไม่เกินกับที่สถานศึกษากำหนด หลังจากนั้นก็นำหลักฐานไปใส่ไว้ในระบบ e-Studentloan ได้เลย ต่อจากนั้นสถานศึกษาจะนำข้อมูลเหล่านี้ไปพิมพ์เป็นลายลักษณ์อักษรทั้งแบบลงทะเบียนและแบบยืนยันจำนวนเงินค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าครองชีพ และให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงนาม เสร็จแล้วสถานศึกษาก็จะตรวจสอบข้อมูลอีกรอบแล้วจึงนำส่งเอกสารในการกู้ยืมนี้ให้กับผู้บริหารและจัดการเงินกู้ยืม
หลังจากที่เราได้กู้ยืมเงินแล้วนั้นเวลาที่เราจะต้องชำระหนี้ กยศ. คือช่วงเวลาหลังจากที่สำเร็จการศึกษาออกไปแล้ว 2 ปีและต้องชำระให้เสร็จภายใน 15 ปี โดยมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี
ส่วนข้อดีและข้อเสียในการกู้ยืมเงิน กยศ. ก็คือ ข้อดี ดอกเบี้ยที่ต้องชำระค่อนข้างต่ำและเปิดโอกาสให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนจริงๆ ได้กู้ยืมไปศึกษาเล่าเรียนและทำให้เกิดประโยชน์ ส่วนข้อเสียก็คือ ขั้นตอนในการขอทุนค่อนข้างยาก เนื่องจากมีผู้ขอกู้ยืมเป็นจำนวนมากที่ยังไม่ยอมผ่อนชำระในเวลาที่กำหนด