แนวโน้มราคาทองคำดูจะสูงขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไปเรื่อย ๆ นักลงทุนที่มองเห็นความปลอดภัยและแนวโน้มของมูลค่าทองคำจึงเลือกที่จะลงทุนในทองคำด้วย เพราะไม่ว่าเมื่อไรที่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เช่น ภาวะสงคราม ภาวะโรคระบาด หรือวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลก ราคาทองคำก็ยังคงสูงขึ้นได้อีก และมีอัตราความผันผวนน้อยกว่าทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ นักลงทุนจึงต้องทำความเข้าใจที่มาที่ไปของมูลค่าทองคำ โดยเฉพาะในช่วงที่โลกต้องเผชิญกับภาวะสงคราม ที่ในแต่ละครั้งไม่ได้มีทีท่าว่าจะจบลงอย่างง่ายดาย
ทองคำกลายเป็นสิ่งมีค่าได้อย่างไร ทำไมแนวโน้มราคาทองคำจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ทองคำเป็นแร่โลหะชนิดหนึ่งที่ค้นพบได้ในธรรมชาติ และหาได้ยากกว่าแร่ชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่ไม่หมอง ไม่เป็นสนิม จึงถือเป็นแร่มีค่าที่มนุษย์นำมาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนได้ ต่อมาเมื่อมนุษย์ได้พัฒนาระบบเศรษฐกิจที่ซับซ้อนมากขึ้น มีการกำหนดระบบมาตรฐานทองคำขึ้นมาผูกกับค่าเงินต่าง ๆ แต่เมื่อเกิดความผันผวนและเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ทองคำก็กลายเป็นทรัพย์สินมูลค่าสูงที่มีไว้สำหรับสะสมมูลค่า ไม่เหมาะกับการนำมาเป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนโดยตรง และถูกใช้เป็นทุนสำรองเงินตราของธนาคารกลางทั่วโลก ซี่งนับวันแนวโน้มราคาทองคำก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ถึงแม้ทองคำจะเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ใช้เวลานานกว่าจะเกิดขึ้นได้ ประกอบกับเทคโนโลยีในการขุดเหมืองที่พัฒนาขึ้น ทำให้ทองคำถูกขุดขึ้นมาง่ายขึ้น จึงกลายเป็นแร่หายากที่นับวันจะใกล้หมดลงทุกที มูลค่าของทองคำจึงสูงขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง
ทำไมภาวะสงครามจึงส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำ
ด้วยความหายากของทองคำนี่เอง ทำให้แนวโน้มราคาทองคำสูงขึ้นแม้จะมีสถานการณ์ต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจของโลกในระดับรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นภาวะถดถอยของเศรษฐกิจโลก ภาวะโรคระบาด ไปจนถึงสงครามที่สร้างความกังวลด้านเศรษฐกิจให้กับผู้คนจำนวนมาก เนื่องจากสงครามเป็นสถานการณ์ที่มีความไม่แน่นอนสูง คาดเดาผลลัพธ์ได้ยาก รวมถึงระยะเวลาการเกิดสงครามที่ไม่แน่นอนด้วย สงครามกับราคาทองคำจึงมีความสัมพันธ์กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
- สงครามในอดีตที่ส่งผลต่อแนวโน้มราคาทองคำ
ในอดีตช่วงปลายทศวรรษ 1970 เป็นช่วงปีที่ราคาทองคำมีความผันผวนสูงมาก เนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้นในเวลานั้นสร้างความเปลี่ยนแปลงในประเทศตะวันออกกลางหลายประเทศ ทั้งในอิหร่าน อิรัก อัฟกานิสถาน รวมถึงความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่าน สงครามในช่วงเวลานั้นทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นตั้งแต่ 23% ในปี 1977 จากนั้นก็ราคาสูงขึ้นอีกอยู่ที่ 37% ในปี 1978 และในที่สุดเมื่อปี 1979 ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปสูงถึง 126% เลยทีเดียว จะเห็นได้ว่าราคาทองพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากทองคำเป็นทรัพย์สินที่มีความปลอดภัย เมื่อสถานการณ์สงครามทำให้ผู้คนไม่ไว้วางใจความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทองคำจึงกลายเป็นแหล่งสะสมทรัพย์สินที่มั่นคงที่สุดแทน
- สงครามเป็นปัจจัยระยะสั้นที่ส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ
สงครามมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมัน และราคาน้ำมันก็ส่งผลกับอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้น “สงคราม ราคาน้ำมัน และอัตราเงินเฟ้อ” จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาทองคำ นักลงทุนที่เลือกลงทุนในทองคำจึงต้องติดตามข่าวสารสถานการณ์ของสงครามอยู่เสมอ เพื่อดูแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำในระยะสั้น เพราะสงครามเป็นสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและอาจเกิดความเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ถึงแม้ในระยะยาวทองคำจะเป็นทรัพย์สินที่ปลอดภัย แต่การติดตามแนวโน้มในระยะสั้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน
- การลงทุนทองคำในภาวะสงคราม เป็นสิ่งที่ควรทำหรือไม่
ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีสงครามระหว่างประเทศเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ไม่แน่นอนเช่นกันว่าจะมีการยกระดับสงครามจนกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 หรือไม่ ท่ามกลางความไม่แน่นอนนี้ทำให้แนวโน้มราคาทองคำมีท่าทีว่าจะสูงขึ้นในระยะยาว การมีทองคำอยู่ในพอร์ตลงทุนด้วย ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการไม่ลงทุนในทองคำเลย เพราะทองคำเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยสูง มีความเป็นรูปธรรมจับต้องได้มากที่สุด และเป็นหลักประกันในสภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวนสูงได้อย่างดี ดังนั้นแม้จะอยู่ในภาวะสงคราม การลงทุนในทองคำก็เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ควรพิจารณาควบคู่กับปัจจัยอื่น ๆ
แนวโน้มราคาทองคำมักเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งก็เป็นผลมาจากราคาน้ำมันและภาวะสงครามที่ส่งผลกระทบต่อกันมาเป็นทอด ๆ จึงอาจกล่าวได้ว่า สงครามคือปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอยู่เสมอ ท่ามกลางความไม่แน่นอนต่าง ๆ หากมีทรัพย์สินที่จับต้องได้ มีความปลอดภัย และมูลค่าไม่ถูกกดลงโดยเงินเฟ้อ ทรัพย์สินนั้นก็เป็นสิ่งที่ควรลงทุน ทำให้การลงทุนในทองคำก็เปรียบเสมือนการสร้างความมั่นคงทางการเงินอย่างหนึ่งนั่นเอง