เมื่อเศรษฐกิจโลกเริ่มกลับฟื้นตัว ภาวะเศรษฐกิจก็เคลื่อนไหวอย่างคึกคัก ราคาน้ำมันดิบ โดยเฉพาะราคาน้ำมันเบรนท์ก็ปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการใช้พลังงานมีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นแนวโน้มของราคาน้ำมันจึงนับว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งชึ้ถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากข้อมูลของการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย (ปตท.) ได้เปิดเผยว่า โดยกลไกของตลาด เมื่อราคาน้ำมันดิบที่นับว่าเป็นวัตถุดิบมีราคาเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศไทยจะมีราคาสูงขึ้นตามด้วย และเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจว่า เพราะอะไรราคาน้ำมันดิบจึงมีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม เราไปวิเคราะห์ข้อมูลสำคัญพร้อมกัน
เหตุผลที่ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์ มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก
จริง ๆ แล้วน้ำมันเบรนท์ เป็นเพียงชื่อเรียกที่บ่งชี้ถึงประเภทของน้ำมันดิบเท่านั้น แต่สาเหตุที่ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลก เพราะน้ำมันเบรนท์เป็นน้ำมันดิบที่มาจากประเทศผู้ผลิตน้ำมันถึง 19 แห่งในแถบยุโรป เรียกได้ว่าเป็นตลาดน้ำมันที่มีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้น้ำมันเบรนท์จึงถูกนำไปใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐาน สำหรับการกำหนดราคาในตลาดสากล ซึ่งนอกจากน้ำมันเบรนท์แล้ว ยังมีน้ำมันดิบดูไบ (Dubai Crude) จากประเทศผู้ผลิตแถบอ่าวเปอร์เซีย และน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) จากประเทศผู้ผลิตในแถบอเมริกาเหนือ จึงสรุปได้ว่าราคาน้ำมันดิบที่ใช้เป็นเกณฑ์มาตรฐานเพื่อกำหนดราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ประกอบไปด้วยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ราคาน้ำมันดิบดูไบ และราคาน้ำมันดิบ WTI โดยทั้ง 3 ประเภทนี้ประเทศไทยจะใช้ราคาน้ำมันดิบดูไบเป็นหลัก
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเบรนท์ และน้ำมันดิบทั่วโลก
นอกจากน้ำมันดิบเบรนท์จะมีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของตลาดน้ำมันดิบโลกแล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันเบรนท์มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันมากกว่าน้ำมันชนิดอื่น คือ สูตรของน้ำมันเบรนท์นั้นมีความเบา และมีคุณภาพสูง ซึ่งในอุตสาหกรรมน้ำมัน วัตถุดิบที่มีความเบาจะมีมวลที่ไม่เข้มข้นเกินไป อีกทั้งยังมีกำมะถันต่ำ จึงถือว่าเป็นวัตถุดิบที่มีความสมบูรณ์แบบในการนำไปผลิตเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน
ดังนั้นความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบ จึงขึ้นอยู่กับความต้องการใช้พลังงานที่ไปกระตุ้นเศรษฐกิจโลก ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงของราคา นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่น่าสนใจ คือ
- นโยบายทางการเงินที่เข้มงวดของแต่ละประเทศ
- นโยบายการผลิตน้ำมันของแต่ละประเทศผู้ผลิต
- ภาวะสงคราม และความขัดแย้งทางการเมือง
- ความต้องการใช้พลังงาน อันเกิดจากการกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งของเศรษฐกิจโลก
- การกลับมาเติบโตอย่างเข้มแข็งของอุตสาหกรรมการผลิต
- ข่าวการเพิ่มผลผลิตของน้ำมันดิบ WTI ในอเมริกาเหนือ
- ข่าวน้ำมันสำรองในทะเลเหนือเริ่มหมดลงทีละน้อย
ดังนั้นหากคุณเป็นนักลงทุนที่สนใจสินทรัพย์ในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบเบรนท์ คุณจะต้องติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เพราะความยิ่งใหญ่ของสัดส่วนในตลาดน้ำมันโลก ส่งผลให้น้ำมันดิบเบรนท์มีความเปราะบางเป็นอย่างมากเมื่อเจอกับความไม่มั่นคงทางการเมือง และยิ่งแนวโน้มราคาน้ำมันมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาในตลาดโลกมากเท่าไหร่ ความผันผวนยิ่งมีสูงขึ้นเท่านั้น จึงเท่ากับว่าเป็นความเสี่ยงที่มาพร้อมกับโอกาสการสร้างผลตอบแทน ที่คุณสามารถลดความเสี่ยงลงได้ด้วยการหมั่นวิเคราะห์สถานการณ์ และเฝ้าระวังปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ